
สิ่งเหล่านี้ใช้กี่วันถึงซักดี
ก่อนที่เราจะสูดดม เช็ด สัมผัสกับเชื้อโรคที่หมักหมมในผ้ามากไปกว่านี้ ลุงเลยรวบรวมมาให้แล้วครับว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้ควรใช้กี่วัน ถึงซักดี
1.ผ้าเช็ดตัว
เราอาจจะคิดว่าเราใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดน้ำออกจากตัว ตอนที่ตัวเราสะอาดสุดๆ ผ้าเช็ดตัวก็ไม่น่าจะเลอะเทอะอะไร แต่การที่ผ้าเช็ดตัวเปียกชื้นทำให้เชื้อโรคบางชนิดเติบโตได้ดี ดังนั้นทุกครั้งที่ใช้ผ้าเช็ดตัวเสร็จควรนำไปตากให้แห้งก่อนที่จะใช้ในครั้งต่อไป และ ใช้เช็ดตัว 3-5 ครั้ง (คนอาบน้ำเช้าเย็น = 2-3 วันซัก คนอาบน้ำวันละครั้ง = 5 วันซัก คนไม่อาบน้ำ = ไม่ต้องซัก) ให้ดีก็ควรมีผ้าเช็ดตัวอย่างน้อย 2-3 ผืน เพื่อมาเปลี่ยนเช็ดจ้า
2.ชุดนอน
ใครที่ชอบใส่ชุดนอนแบบย้วยๆ หรือมีชุดนอนที่ชอบใส่มากๆ ต้องตัวนี้ถึงจะหลับสบาย อาจจะไม่ค่อยชอบซักชุดนอนซักเท่าไหร่ แต่รู้ไหมว่าตอนที่เราใส่นอนประมาณ 6-10 ชั่วโมงนั้น เศษผิวหนังเล็กๆที่หลุดออก สารคัดหลั่งที่ออกมาตอนเราหลับ ไปหมักหมมในชุดนอนได้เยอะเหมือนกัน ดังนั้นใส่นอนสัก 3-4 คืนก็ควรเปลี่ยนซักได้
หรือถ้าช่วงไหนอากาศร้อน เหงื่อออก ก็ควรเปลี่ยนชุดนอนใหม่เลยจ้า
3.ผ้าปูที่นอน
สิ่งที่น่าห่วงของผ้าปูที่นอน นั่นคือ ไรฝุ่น เพราะไรฝุ่นจะมากินเศษผิวหนัง เศษหนังหัว เป็ยอาหาร นอกจากนี้พวกคราบมัน(หน้ามัน) คราบน้ำลาย คราบเมนส์ คราบอสุจิ ก็เป็นสิ่งที่หมักหมมเชื้อโรคได้เป็นอย่างดีจนบางทีตื่นมาเหมือนหายใจไม่เต็มที่ หรืออยู่ๆ ก็มีผื่นคันขึ้นตามตัวอาจเป็นเพราะผ้าปูที่นอนสกปรกได้ ดังนั้นต้องขยันซักผ้าปูที่นอน โดยควรซักทุกๆ 2 สัปดาห์จ้า
4.ปลอกหมอน
สำหรับคนเป็นสิว หรือ ผิวแพ้ง่าย ปลอกหมอนก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องรักษาความสะอาดมากเป็นพิเศษ ยิ่งคุณผู้หญิงที่แต่งหน้าทุกวัน ถ้าล้างเครื่องสำอางค์ไม่สะอาด ก็จะเลอะปลอกหมอนไปเรื่อยๆได้ บางคนที่นอนคว่ำหน้า หรือ นอนตะแคง ก็อาจกลายเป็นนอนสูดเชื้อโรคที่สะสมในปลอกหมอนเข้าไปตลอดคืน ดังนั้นปลอกหมอนจึงควรซัก 1 ครั้ง/สัปดาห์ (บางคนกลับปลอกหมอนหน้า A เป็นหน้า B เอา ก็ไม่รอดนะครับ)
ทั้งนี้ความถี่ในการซักก็ยืดหยุ่นไปตามความสะอาดของแต่ละคนนะครับ ยิ่งคนที่ชอบกินอาหาร หรือทำกิจกรรมบนที่นอน ลุงว่าซักบ่อยๆหน่อยก็ดีนะ