เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง “อาการเบิร์นเอาท์” และ “ความขี้เกียจ”

เบิร์นเอาท์ VS ขี้เกียจ

ที่เป็นอยู่เพราะอะไรกันแน่นะ?

พอถึงวันจันทร์ทีไรน้ำตาจะไหลทุกทีเลย อยากอยู่นิ่ง ๆ ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากทำงาน หมดใจ หมดเรี่ยวแรง อาการแบบนี้อาจบอกถึง “ภาวะเบิร์นเอาท์ ซินโดรม” ก็เป็นได้ แต่รู้มั้ยล่ะว่า…มันมีเส้นบางๆ ก้นอยู่ระหว่างเบิร์นเอาท์กับความขี้เกียจอยู่นะ ลองมาเช็กกันดูครับว่าที่เราเป็นอยู่มันคืออะไรกันแน่

เบิร์นเอาท์ ซินโดรม (Burnout Syndrome) 

เกิดจากการทำงานหนักแล้วไม่ได้พักผ่อนเป็นเวลานาน ความเครียดสะสมทำให้พักผ่อนได้ไม่เพียงพอึ่งส่งผลต่อจิตใจที่อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้

อาการ 

  1. ไม่อยากตื่นมาทำงาน
  2. เบื่อหน่ายงาน
  3. ไม่อยากคุยกับใคร
  4. ไม่มีความสุขในการทำงาน
  5. ขาดสมาธิ และความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน

วิธีแก้ไข 

โดยธรรมชาติแล้วมนุษย์แต่ละคนจะมีวิธีการพาตัวเองกลับมาที่ไม่เหมือนกัน ได้แก่ 

  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 
  • เปลี่ยนบรรยากาศในการทำงาน
  • หาที่เงียบสงบแล้วนั่งโง่ ๆ ดูก้อนเมฆลอยผ่านไปมา ไม่ต้องเล่นมือถือรับรู้เรื่องราวของคนอื่นสักพัก ไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งใด ๆ 
  • จดบันทึก
  • ออกไปพบเจอผู้คน เพราะมันทำให้คุณได้หัวเราะ เบี่ยงเบนความสนใจไปจากสิ่งที่ชวนให้หมดไฟ 
  • ทำกิจกรรมเพื่อเติมเต็มความหมายของชีวิต เช่น การออกไปเป็นอาสาสมัคร ทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้าง

ความขี้เกียจ 

เกิดจากนิสัยแม้ไม่ได้ทำอะไรก็อยากจะพักผ่อน

อาการ อ่อนเพลีย ไม่อยากทำอะไรเลย อยากอยู่เฉยๆ

วิธีแก้ไข ตั้งเป้าหมายเล็กๆ แล้วลงมือทำ ขี้เกียจไปให้สุด จนขี้เกียจจะขี้เกียจ

ไม่ว่าวันนี้เราอยากจะนอนต่อเพียงใด อยากจะอยู่เฉยๆ เพียงใด เทคนิคง่ายๆ ของลุงที่ใช้ได้ผลเสมอคือให้พึงระลึกไว้ว่าถ้าเราไม่ลุกขึ้นเดือนนี้เราจะกินอะไร พลังของเงินทองและความเป็นอยู่ของปากท้องจะเป็นพลังฮึดให้เราสู้ได้

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://mayocl.in/2B9VGtm