
ต้องมีสักครั้งในชีวิตที่เราจะโดนยุให้ดื่มแอลกอฮอล์ในงานรับน้องบ้าง งานเลี้ยงสังสรรค์ของบริษัทบ้าง แล้วถ้าไม่สตรองพอที่จะปฎิเสธไม่ดื่ม ก็มาลองดูกันครับว่าดื่มแค่ไหนมีสิทธิเมาเบอร์ไหน จะได้ไม่เป็นอันตราย และ ไม่เป็นภาระของเพื่อนด้วยครับ
ระดับการเมานั้นวัดจากปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด แต่ต่อให้ดื่มปริมาณเท่ากัน แอลกอฮอล์ในเลือดก็อาจไม่เท่ากัน ซึ่งจะเมามากเมาน้อยขึ้นอยู่กับ
–เพศ เพศหญิง แอลกอฮอล์ในเลือดจะขึ้นง่ายกว่าเพศชาย
–น้ำหนัก คนน้ำหนักน้อยแอลกอฮอล์จะขึ้นง่ายกว่าคนน้ำหนักมาก
–ช่วงเวลา ดื่มเร็วทีละเยอะๆ เมามากกว่าค่อยๆจิบ
นอกจากนั้นต้องรู้ความแตกต่างของปริมาณแอลกอฮอล์ในเครื่องดื่มแต่ละชนิดก่อนครับ
ในเบียร์ จะมีปริมาณแอลกอฮอล์น้อยที่สุด คือ 5% ไวน์ จะมีแอลกอฮอล์ 12 % ส่วนเหล้ามีแอลกอฮอล์ถึง 40% ด้วยปริมาณแอลกอฮอล์ที่ไม่เท่ากันนี้เอง ทำให้มีการกำหนดค่ามาตรฐานในการดื่มขึ้นมา เรียกว่า ดริ๊งค์ (ปริมาณการดื่มที่เราจะเมาใกล้เคียงกัน)โดย
เบียร์ 1 ดริ๊งค์ = เบียร์ 1 กระป๋อง (315 มล.)
ไวน์ 1 ดริ๊งค์ = ไวน์ 1 แก้ว (124 มล.)
เหล้า 1 ดริ๊งค์ = เหล้า 1 แก้วชอต
หากดื่มใน 1 ชั่วโมงเท่ากัน
– เบียร์ 1 กระป๋อง, ไวน์ 1 แก้ว, เหล้า 1 แก้วชอต พบว่าช่วยบำรุงหัวใจ ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ (แต่ก็ยังมีอีกหลายวิธีในการบำรุงหัวใจโดยไม่จำเป็นต้องดื่มนะ)
– เบียร์ 2 กระป๋องขึ้นไป, ไวน์ 2 แก้วขึ้นไป, เหล้า 2 แก้วชอตขึ้นไป พบว่าปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดถึงเกณฑ์เมาแล้วขับ โดนตำรวจจับได้จ้า
- เบียร์ 6-9 กระป๋อง, ไวน์ 6-9 แก้ว, เหล้า 6-9 แก้วชอต ทำให้กลายร่าง เมาเหมียนหมา คลื่นไส้ อ้วก พูดไม่รู้เรื่อง
- เบียร์มากกว่า 14 กระป๋อง, ไวน์มากกว่า 4 แก้ว, เหล้ามากกว่า 4 แก้วชอต นั้นเป็นอันตรายถึงชีวิต เพราะปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเป็นพิษ จนตับวายได้
อาจจะรู้สึกว่าใครจะดื่มจนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แต่เชื่อไหมว่ามีเคสตัวอย่างที่มีการโดนมอมเหล้าให้ดื่มจนมีค่าแอลกอฮอล์ในเลือดสูงถึง 418 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ ผลคือไม่ได้สติ และ เสียชีวิตในที่สุด
ลุงจึงอยากฝากเอาไว้ว่าตอนแรกกินเหล้าผสมโซดา แต่ไปๆมาๆ อาจผสมน้ำตาได้นะครับ
อ้างอิงข้อมูล
แสดงความคิดเห็น