
มองไปทางไหนก็เห็นแต่คนกินชาไข่มุก จะหนีเข้าโลกโซเชียลก็เจอโปรโมชั่นชาไข่มุก ใครกรีดเลือดมาเป็นชาไข่มุก ต้องอ่าน!
แม้ในใจก็รู้ว่าชาไข่มุกกินแล้วอ้วน ไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ใจก็อยากจะกิน
วันนี้ลุงขอชำแหละชาไข่มุกให้รู้แล้วรู้รอดว่าส่วนผสมไหนบ้างที่ทำให้ชาไข่มุกดูเป็นตัวร้าย เผื่อปรับลดได้ เราจะได้กินได้แบบไม่รู้สึกผิดครับ
ชาไข่มุก 1 แก้วมักประกอบด้วย
- น้ำชา ให้พลังงาน 0 kcal
- ไข่มุก ทำมาจากแป้งมันสำปะหลัง ปั้นเป็นเม็ดกลมๆ แล้วนำไปเคี่ยวในน้ำตาล แก้วนึงเฉลี่ย 100-200 เม็ด ให้พลังงาน 300-400 kcal
- น้ำตาล ประมาณ 25 กรัม ให้พลังงาน 100 kcal (ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก ควรบริโภคน้ำตาลไม่เกิน 24 กรัม/วัน)
- ครีมเทียม 2 ช้อนโต๊ะ ให้พลังงาน 78 kcal
ดังนั้นชาไข่มุก 1 แก้ว จะให้พลังงานประมาณ 300 – 500 kcal ซึ่งมากพอๆกับข้าวกระเพราหมู 1 จานเลยทีเดียว เมื่อเรากินชาไข่มุกจึงอาจเพิ่มความเสี่ยงโรค คือ
- เสี่ยงโรคอ้วน จากการได้รับพลังงานมากเกินไป
- เสี่ยงโรคเบาหวาน จากน้ำตาลในชาไข่มุก
- เสี่ยงโรคทรัพย์จาง จากราคาชาไข่มุกที่แพงขึ้นเรื่อยๆ
แต่ถ้าอยากกินชาไข่มุก จะกินยังไงให้อ้วนน้อยลงดี?
อย่างเเรกเลยคือ สั่งหวานน้อย เพื่อลดปริมาณของน้ำตาลลงซึ่งจะช่วยลดพลังงานไปได้ถึง 200 kcal
ลดปริมาณการกินแป้งในอาหารมื้อหลัก เพราะร่างกายจะได้รับแป้งจากเม็ดไข่มุกที่ทำมาจากแป้งมันสำปะหลังอยู่แล้ว อาจลองลดแป้งจากปริมาณข้าว เค้ก หรือ ขนมกินเล่น
เบิร์นแคลอรีออก หากลดหวานไม่ถูกใจ ลดแป้งก็อดไม่ไหว ทางเลือกสุดท้ายคือกินของที่ชอบแล้วมาชดใช้กรรม นั่นคือออกกำลังกายเพื่อเบิร์นแคลอรีของชาไข่มุกออกไปบ้าง โดยถ้าเราทำงานบ้าน เช่น ซักผ้า กวาดบ้าน ถูบ้าน อย่างน้อย 1 ชั่วโมง จะสามารถเบิร์นพลังงานได้ถึง 450-500 kcal
หรือถ้าใครชอบวิ่ง วิ่งจ๊อกกิ้งประมาณ 45 นาที ก็ช่วยให้เบิร์นได้ 457-562 kcal
ทั้งนี้แคลที่เบิร์นขึ้นอยู่กับเพศ และ น้ำหนักตัวครับ ในที่นี้ลุงคิดจาก ผู้หญิงหนักน้ำหนัก 57 กก. ผู้ชายหนัก 70 กก.
สุดท้ายนี้กินชาไข่มุกให้พอดี + เอาเทคนิคเหล่านี้ไปปรับใช้ ก็จะกินได้แบบมีความสุขจ้า